
พิทบูลในสไตล์ Bully ในอเมริกามีหลายสายที่โด่งดัง Razorsedge, TrueTank, Noble, Gotti, GreyLine, BUTTHEAD และ Watchdog อีกกลุ่มเป็นพิทบูลที่ทำมาเพื่อประกวดใน UKC โดยเฉพาะ มีความ Correct ในตัวสูง และมีความ Bully ในตัวบ้างเช่นกัน เช่นสาย Gaff, Knowlwood และ GreyFox นอกจากสายที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกหลายสายที่ทำกันอยู่ แต่ยังไม่เป็นที่นิยม หรือเข้าตาในกลุ่ม Breeder ที่เล่นสไตล์ Bully นัก พิทบูลในสไตล์ Bully ส่วนใหญ่จะเป็นพิทบูลที่ขึ้นกับสมาคม UKC แต่ก็มีบ้างบางตัวที่เป็นทั้ง UKC และ AKC หรือที่เรียกกันว่า Dual Register จุดเด่นที่ทำให้สไตล์นี้น่าสนใจ ก็คงเพราะความดูดุดัน และสะใจดี แต่จุดด้อยของมันก็มีเช่นกัน ตัวที่Bully มากๆจะขาดความทะมัดทะแมง และความเป็นสุนัข athletic หรือสุนัขนักกีฬา เหมือนที่พิทบูลควรจะเป็น มีน้อยลง หลายตัวที่ผมเคยสัมผัส มักเหนื่อยง่ายกว่าสายใช้งาน หรือสายที่มาจากการกัดและลากน้ำหนักมากพอควร ซึ่งก็เป็นจุดแตกต่างที่ควรมองให้ดีด้วยว่า เราชอบสุนัขพิทบูลในแบบใด ซึ่งมองๆก็คล้ายๆนักมวยระหว่าง นักมวยไทยกับนักมวยปล้ำยังไงยังงั้น แตกต่างทั้งทางสลีลักษณ์ ความสามารถในจุดที่แตกต่าง
สำหรับพิทบูลในสไตล์ Bully นั้น Razorsedge หรือ R.E. ดูจะเป็นสายที่โดดเด่นมากที่สุดในกลุ่มพิทบูล


ในความเป็นจริง สุนัขที่จะมีขนาดเตี้ยและใหญ่ขนาดนั้น หากมีก็คงมีน้อยมาก หรือแถบจะไม่มีเลย เดียวปิดกั้นไปซะหมด จะถูกหาว่าผมเป็นขวางโลกไปซะงั้น ที่กล่าวมา ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพียงแค่อยากให้คนเลี้ยง หรือผู้เพาะพันธุ์ที่จะนำมาพัฒนา ได้ไตร่ตรองและพิจารณาสูงขึ้น ในความเป็น Bully ของ R.E. ที่ Dave Wilson ได้ทำนั้น ทุกวันนี้ ผมว่าก็ยังคงเน้นอะไรที่นอกจากจะสวยขึ้นแล้ว ยังต้องฉลา
ดขึ้นด้วย มีทั้งความ Correct และสะใจไปพร้อมๆกัน แต่แนวโน้มปัจจุบันของ R.E. เริ่มที่จะเบี่ยงเบนมาทาง Freak มากขึ้น ทำให้สาย R.E. เริ่มแตกต่างจากแบบดั้งเดิมที่เคยทำกันมา แต่คาดว่าคงเพราะกระแสความนิยมของคนที่เน้นไปในแนวนี้ซะมากกว่า ในกรณีนี้เองที่ผมเห็น Dave ได้ออกมากล่าวเป็นนัยๆบ้างแล้วเช่นกัน เรื่องที่ R.E. เพี้ยนไป อยากให้กลับมาเป็นในแนวดั้งเดิม แถมยก Nememsis ให้เป็นหมาตัวอย่าง ทำให้ตอนนี้ Nememsis เนื้อหอมขึ้นเลยทีเดียว แต่จะผสมกับเขาคงยากเพราะค่อนข้างเลือกแม่หมา และปิดรับผสมมานานแล้ว แต่ตอนนี้ก็เริ่มเปิดให้แม่หมาบางตัวบ้าง เท่าที่รู้มาสาเหตุที่ Nememsis หยุดรับผสมก็เพราะไม่อยากให้ลูกเขามากเกินไป และอยากดูผลงานของลูกๆมันตอนโต เพื่อจะได้มองสายออกมากขึ้น ไม่แน่ อาจจะเห็นสายของเขาเข้ามาบ้างเหมือนกันนะครับ อันนี้ต้องติดตาม สำหรับในเมืองไทยเอง ผมเคยได้ยินบางคนวิจารณ์กล่าวถึง Nememsis ว่า เป็นหมาไม่สวย ตัวยาวๆ แปลกๆ ผมว่า หลังจาก Dave ยกให้เขาเด่นแบบนี้ คงมอง Nememsis หรือ พิทบูลในสไตล์นี้ใหม่อีกทีก็ยังทัน ผมเองมองว่า Nememsis อาจจะสูงเกินคำนิยามของคนเน้นเตี้ยสะใจ เพราะสูง 20-21" แต่ดูโดยรวมแล้วเขากลับเป็นพิทบูล R.E. ที่ดู Perfect และเด่นมากอีกตัวนึง หากให้มองอีกมุมจะเหมือนที่ผมกล่าวไว้ตอนต้นว่า พิทบูลสไตล์ Bully ควรเน้นอะไรที่มันดู Balance มากกว่า เตี้ย ล่ำสั้น ซะอย่างเดียว เพราจะทำให้เอกลักษณ์ของมันโดดเด่นขึ้นมากกว่าอย่างแน่นอน ถึงแม้จะสูง 22" ก็ไม่ถือว่าน่าเกียจ หากเราทำให้มันสมส่วน และสร้างจุดเด่นให้มันได้ คิดว่าหลายๆคน คงให้เสียงตอบรับที่ดีเช่นกัน เรื่องความสูงมันไม่ใช่อะไรที่ตายตัว มันขึ้นอยู่กับกระแสและความนิยมมากกว่า แต่ใช่ว่าสิ่งที่ผมกล่าวจะถูกต้องไปเสียทั้งหมด เพราะผมเองอาจจะยกความชอบส่วนตัวเป็นหลักด้วย ทุกอย่างคำตอบคงอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนมากกว่าครับ



ส่วนถ้าใครชอบ Freak จัด หรือหลุดโลกไปเลย ก็ต้องยกให้ Gotti/Greyline และ BUTTHEAD จะว่าไปแล้ว Gotti เอง ก็คงเหมือนกับ TrueTank ที่มาจากสายอื่น และนำมาทำเป็นสายของตนเอง เพราะจะว่าไปแล้วสุนัข Gotti แทบทุกตัวมาจาก Greyline ทั้งนั้น และจะเป็น Greyline Rider II เสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นเจ้า "West Side Monster" "Juan Gotti" แต่หมาทั้งสองสายนี้ อาจจะยังมีความดุในตัวเองสูงอยู่บ้าง



สุดท้ายที่จะแนะนำคือ สาย Watchdog สายนี้จะเน้นในพิทบูลแบบ Bone crazy หรือที่เรียกว่า เอากระดูกใหญ่ๆ หัวโตๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ หลายตัวของ Watchdog มักจะมีโครงสร้างใหญ่ หัวราวๆ 24-28" ขึ้นไป น้ำหนักก็เยอะตามขนาดตัว มีหลายสายที่นำสายของ Watchdog มาใช้ เช่น สาย maddlatin ซึ่งถือเป็นคอกใหญ่อีกคอกนึงสำหรับหมาสไตล์นี้ ซึ่งพ่อพันธุ์ตัวดังของ Maddlatin คงหนีไม่พ้น "Shaq" และ "Big Bam Bam" ถือว่าเป็นพิทบูลที่ตัวโตมาก กระดูกใหญ่ และหัวโตเช่นกัน สายพวกนี้โดยส่วนใหญ่ โครงสร้างโต และสูงประมาณ 18-22" น้ำหนักตัว 80-100lbs ขึ้นไป ยังงี้เรียกว่าใหญ่สมตัวจริง และค่อนข้างไม่กล่าวอ้างโม้ถึงความสูงให้เตี้ยเกินจริง เพราะเขาได้สร้างจุดเด่นของเขาขึ้นมาเอง มองพิทบูลสายนี้ก็กลับมานึกถึงสาย Dungeon และ Camelote ซึ่งเป็นสายที่เน้นทำน้ำหนักที่มากและกระดูกใหญ่ๆด้วยเช่นกัน ซึ่งบ้านเราคงรู้จักสาย Camelote ดี หากพูดถึง Old Family Red Red Nose หรือ OFRRN ซึ่งมีลูกหลานในบ้านเราหลายตัวแล้วในปัจจุบัน
สรุปส่งท้ายแล้วกัน ทุกสายที่ผมกล่าวมา ไม่ใช่แค่ว่าสายเท่านั้น ที่ทำให้เกิดความเป็น Bully ขึ้นมาได้ แต่ละสายมีจุดดี จุดด้อยแตกต่างกัน บางตัวถึงแม้จะสายเดียวกัน บางครั้งก็มีทรงที่แตกต่างกันได้ จะต้องมองถึงที่มาของสายให้ดี การจะเป็น Breeder ที่ดีได้ ไม่ใช่แค่นำ พ่อแม่หมาที่สวยมาผสมกัน แต่จะต้องดูให้ลึกถึงการถ่ายทอดสายเลือด บางครั้งพ่อแม่สวยให้ลูกออกมาไม่สวย หรือ พ่อ/แม่ที่ไม่สวย ให้ลูกออกมาสวยก็มี และไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเลือดร้อยเท่านั้น RE100% บ้าง Gotti 100% บ้าง ผมว่าอันนี้เป็นตัวโฆษณาไว้ขายมากกว่าเน้นคุณภาพ เพราะบ่อยครั้งที่ผมเจอสายเลือดร้อย สวยสู้พิทบูลที่ไขว้สายมาไม่ได้ด้วยซ้ำ เลือดร้อยไม่ร้อยมันไม่ใช่ตัวกำหนดที่แน่นอน ส่วนบางคนที่กำลังคิดมาเป็น Breeder และคิดว่า ชอบหัวสายนี้ กระดูกสายนั้น เตี้ยสายนี้ เอามาจับเข้าผสมกัน ก็ใช่ว่าจะออกมาได้ซะง่ายๆ เหมือนสมการทางคณิตศาสตร์แบบที่คิดเลยซะทีเดียว นะครับ ความสำเร็จแต่ละครั้ง ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ แต่ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ แนวความคิด และการวางแผนที่เป็นไปได้ การเป็น Breeder จึงเป็นเรื่องยาก และสิ่งที่ท้าทาย แต่มันจะไม่ใช่เรื่องยาก หากจะลองศึกษา และสะสมประสบประการณ์ ทุกวันนี้ความรู้หาได้ง่ายมากกว่าเดิมมาก อย่าหยุดศึกษา หรือลังเลที่จะสอบถามผู้รู้นะครับหวังว่าบทความในฉบับนี้คงพอช่วยเป็นแนวทางให้หลายๆคน ที่คิดจะเพาะพันธุ์มีแนวคิด และความรู้ใหม่ๆบ้างไม่มากก็น้อย และคงไม่คิดโกรธกันนะครับที่อาจจะเขียนนำเสนอหลายแง่มุม ซึ่งอาจจะกระทบกับท่านใดท่านหนึ่งได ้แต่อยากให้ผู้อ่านได้ข้อคิดความรู้ที่นำไปใช้ได้จริงมากกว่า และขออภัยหากบทความนี้ตกหล่นหรือผิดพลาดประการใด
บทความนี้นั้นมาจากเว็บ http://www.pitbullgroup.com/ เรานำมาเพื่อให้ศึกษาแบ่งปันสิ่งที่ได้